วันอังคารที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ขอเชิญเที่ยวชมงาน เพื่อนพึ่ง (ภา) ปี 2556 ม.เกษตรบางเขน 21-30 มิถุนายน 2556






         ขอเชิญเพื่อนสมาชิกชมรมศิษย์โกมารภัจจ์ทุกท่าน เที่ยวชมงานของ  มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จะจัดงาน เพื่อนพึ่ง (ภาฯ) เกษตรแฟร์ประจำปี 2556 ในระหว่างวันที่ 21-30 มิถุนายน 2556 เวลา 10.00 – 22.00 น.  โดยบูธของชมรมฯ จะอยู่บริเวณหอประชุม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ค่ะ
        โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเผยแพร่กิจกรรมผลการดำเนินงานของมูลนิธิฯ และผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่ผู้ประสบภัยสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวิตประจำวันได้ ให้ประชาชนได้ทราบ รวมทั้งเป็นการหารายได้สมทบเข้ามูลนิธิอาสา เพื่อน พึ่ง (ภาฯ) ณ บริเวณหอประชุม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ยามยาก สภากาชาดไทย เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติต่าง ๆ ในพื้นที่ทุกภาคของประเทศไทยที่ได้รับผลกระทบ
     การจัดงานเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) เกษตรแฟร์  ปี 2556 ในครั้งนี้ภายในงานได้จัดให้มีกิจกรรมหลายอย่าง เช่น การจัดให้มีการจำหน่ายสินค้าหลากหลายประเภท อาทิ  สินค้าทางการเกษตรทั้งอุปโภคและบริโภค ต้นไม้ ดอกไม้ งานฝีมือ อาหารคาวหวานพื้นเมือง อุปกรณ์การเกษตร การจัดตลาดน้ำโดยมีตลาดน้ำที่มีชื่อเสียงเข้ามาจำหน่ายสินค้าและอาหาร ให้บรรยากาศเหมือนกับได้ไปตลาดน้ำนั้นจริง มีการจัดสวนสนุกที่รวบรวมเครื่องเล่นไว้หลายชนิดเพื่อสร้างความเพลิดเพลินให้แก่ผู้มาเที่ยวชมงาน ซึ่งการจัดงานขึ้นในครั้งนี้ รายได้จะนำเข้าสมทบมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยากสภากาชาดไทย
 โซนตลาดนัดเป็น 10 โซน  ดังต่อไปนี้
     โซน A สวนสัตว์เลี้ยงเคียงน้ำ บริเวณทางเข้าประตูงามวงศ์วาน 1 ถึงบริเวณทางเข้าสามบูรพาจารย์ มีจำนวน 36 ล็อค จำหน่ายสัตว์เลี้ยง อาทิสุนัข แมว ปลาสวยงาม ฯลฯ อาหารสัตว์ และอุปกรณ์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง
     โซน B ทรัพย์ในดินสินในน้ำ บริเวณทางเข้าสามบูรพาจารย์ ถึงแยกข้างศาลาหกเหลี่ยม มีจำนวน 102 ล็อค พันธุ์ไม้ กล้าไม้ ไม้ดอก ไม้ประดับ ไม้ผล พืชผักสวนครัว ปุ๋ย เมล็ดพันธุ์ วัสดุอุปกรณ์และเครื่องมือการเกษตร
     โซน C มีน้ำมีนวล บริเวณทางเท้าฝั่งศาลาหกเหลี่ยม จำนวน 37 ล็อค จำหน่ายผลิตภัณฑ์ผลผลิตที่เป็นสมุนไพร เช่น พืชสมุนไพร ผลไม้เพื่อสุขภาพ ยาสมุนไพร ผลิตภัณฑ์ อโรมาเธอราปี ผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อความงาม ผลิตภัณฑ์นวด อบ ประคบ น้ำส้มควันไม้ ฯลฯ สปาและนวดแผนไทย
     โซน D เพชรน้ำหนึ่ง  บริเวณทางเข้าหอประชุมใหญ่ จำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ OTOP ผลิตภัณฑ์  ชุมชน ผลิตภัณฑ์วิสาหกิจชุมชน ผลิตภัณฑ์กลุ่มแม่บ้าน ผลิตภัณฑ์ SME และผลิตภัณฑ์ ผลผลิต ดี เด่นดังของแต่ละจังหวัด เช่น ที่นอน หมอนขิดยโสธร รองเท้าหนัง รองเท้าเชือกสาน เสื้อผ้าสำเร็จรูปจากผ้าไหม ผ้าฝ้าย เครื่องประดับเงิน สิ่งประดิษฐ์จากไม้ ของขวัญของแต่งบ้าน ข้าวซอยตัด อาหารเหนือ น้ำมันงา น้ำมันมะพร้าว หมูย่าง ลูกชิ้นปลาเยาวราช ผลไม้แปรรูป น้ำองุ่น 100% จากไร่ประภัฏสร หมูแปรรูป ปลานิลแดดเดียวไร้ก้าง น้ำพริกหลากรส ฯลฯ

     โซน F สะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก บริเวณลานจอดรถติดกับทางเข้าหอประชุมใหญ่ มีเครื่องเล่นมากมาย อาทิเช่น ม้าหมุน สไลด์เดอร์ บ้านลม รถไฟฟ้าเด็ก ปาลูกโป่ง ปืนจุกน้ำปลา และซุ้มเกมส์ต่างๆ
     โซน G อู่ข้าวอู่น้ำ บริเวณสระพระพิรุณฝั่งแยกเกษตร จำนวน 124 ล็อค มีทั้งอาหารหวานคาวให้เลือกซื้อเลือกชิม อาทิ อาหารทะเลแปรรูป แคบหมูน้ำพริกหนุ่ม หอยจ้อ ลูกชิ้นปลาทูต้มเค็ม หอยทรงเครื่อง ข้าวหลาม ข้าวแต๋น ขนมไทย ผลไม้ ฯลฯ
     โซน H น้ำหนึ่งใจเดียว บริเวณสระพระพิรุณฝั่งศาลาหกเหลี่ยม จำนวน 78 ล็อค สินค้าอุปโภค อาทิ เครื่องนุ่งห่ม เสื้อผ้าจากผ้าไหม และผ้าฝ้าย ผ้าปาเต๊ะเกาะยอ กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์สมุนไพรเช่น สบู่ แชมพู ครีมบำรุงผิวฯลฯ
     โซน I อิ่มน้ำใจ
   รวบรวมอาหารหลากหลาย อร่อย สะอาดถูกหลักอนามัย โดยมีที่นั่งรับประทานมาบริการในงาน มีบริการทั้งหมด 4 จุดดังนี้
                        จุดที่ 1 บริเวณทางเข้าประตูเล็กสะพานลอยข้ามแยกเกษตร
                        จุดที่ 2 บริเวณด้านข้างหอประชุมฝั่งติดกับโซน D
                        จุดที่ 3 บริเวณทางเข้าโซนตลาดน้ำร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ
                        จุดที่ 4 บริเวณลานพื้นที่บันไดท่าน้ำสระพระพิรุณฝั่งศาลาหกเหลี่ยม
     โซน J น้ำทิพย์ชโลมใจ มูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ)  บริเวณด้านหลังหอประชุมใหญ่ ประกอบด้วย นิทรรศการโครงการเพื่อนพึ่ง   (ภาฯ) สร้างความมั่นคงทางอาชีพแก่ผู้เสี่ยงอุทกภัย นิทรรศการผลพลอยของพอเพียงเป็นการแสดงนวัตกรรมการผลิตน้ำส้มควันไม้ที่มีคุณภาพสูง และถ่ายอนามัยซึ่งเป็นผลพลอยได้จากกิจกรรมเกษตรออร์แกนิค ตลาดเกษตรอินทรีย์ พืชผัก ไม้ไม้ออร์แกนิค และสินค้าจากร้านเพื่อนพึ่ง (ภาฯ เช่น เสื้อ กระเป๋า งานฝีมือ decoupage ในราคาพิเศษ นอกจากนี้ทางมูลนิธิยังมีการแสดงแปลงสาธิตเศรษฐกิจพอเพียง เช่น การเลี้ยงไก่ ปลาดุกอินทรีย์ การทำสิ่งของอุปโภคใช้เองในครัวเรือนเพื่อลดรายจ่าย
     สำหรับนวัตกรรมของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ใหม่ ๆ ที่สามารถนำไปใช้ทั้งในครัวเรือนและในชุมชนเน้นการดำเนินชีวิตแบบพอเพียง เช่น เครื่องแปรรูปวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเป็นเชื้อเพลิงพลังงานและปุ๋ย เครื่องปอกฝรั่ง แก่นตะวันพืชเพื่อสุขภาพ เครื่องสีข้าวชุมชน เครื่องสีข้าวขนาดจิ๋ว น้ำหนักเพียง 15 กิโลกรัม เตาหุงต้ม (KU Green Stove) และถ่ายอนามัยที่ปราศจากสารก่อเกิดมะเร็ง ให้ความร้อนสูง แทบไม่มีเขม่าควัน จุดติดง่าย มีขี้เถ้าน้อย เพื่อให้ได้ถ่านไม้สะอาดคุณภาพสูงและมีความปลอดภัยต่อผู้ใช้ และเวทีการแสดง

     Hi-light ของการจัดงาน โซน E ตลาดน้ำร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ  ตลาดน้ำและตลาดโบราณที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ของท้องถิ่น วิถีชีวิตแบบไทย จัดอยู่บริเวณสระน้ำด้านหลังหอประชุมใหญ่และหอนาฬิกา จำนวน ๘ ตลาดน้ำ พบกับสินค้าขึ้นชื่อประจำตลาดน้ำให้เลือกซื้อมากมายทั้งอุปโภคและบริโภค จากตลาดน้ำชื่อดัง อาทิ หมี่กรอบ ขนมจีน หมูสะเต๊ะจากตลาดน้ำตลิ่งชัน ซาลาเป๋าจิ๋ว ลูกชิ้นดอนเมืองจากตลาดน้ำวัดสะพาน ก๋วยเตี๋ยวเรือรสเด็ด ทอดมันหน่อกะลาจากตลาดน้ำคลองลัดมะยม ปลาน้ำจืดแปรรูปและของดีเมืองสุพรรณจากตลาดร้อยปีสามชุก อาหารหวานคาวจากตลาดน้ำมหานคร ขนมและของเล่นย้อนยุคจากตลาดน้ำบางคูลัด และ ขนมเปี๊ยะครูสมทรงจากตลาดน้ำลำพญา เป็นต้น

     ซึ่งในครั้งนี้จะมีการจัดประกวดตลาดน้ำเพื่อเป็นการส่งเสริมสังคมและเศรษฐกิจ ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น คุณภาพสิ่งแวดล้อม
     สำหรับทางมูลนิธิฯจะมีผลิตภัณฑ์ในพระดำริและผลิตภัณฑ์ผลพลอยพอเพียงที่ได้จากผลพลอยได้ของการเกษตรอินทรีย์และเศรษฐกิจพอเพียง มาจำหน่าย อีกทั้งยังมีผลิตผลการเกษตรอินทรีย์ ได้แก่ ผลไม้และผลิตภัณฑ์แปรรูปมาจำหน่ายจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำข้าว Rice berry เกษตรอินทรีย์มาแปรรูปเป็นขนมปังและ bakery ชนิดต่าง ๆ มาแสดงและจำหน่ายด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น